ขอบเขตอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ และอำนาจอนุมัติของคณะกรรมการบริษัทฯ

ขอบเขตอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ และอำนาจอนุมัติของคณะกรรมการบริษัทฯ

(1)     ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัทฯ รวมถึงมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง และซื่อสัตย์สุจริต

(2)     กำหนดนโยบายหลักในการดำเนินธุรกิจ นโยบายด้านการเงิน และการบริหารเงินทุนของบริษัทฯ และกำกับดูแลให้ฝ่ายจัดการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

(3)     พิจารณาอนุมัติรายการที่มีสาระสำคัญที่กฎหมาย ข้อบังคับ หรือระเบียบปฏิบัติของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวกำหนดให้ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการหรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ

(4)     จัดให้มีระบบการควบคุมภายในด้านการดำเนินงาน ด้านการรายงานทางการเงิน และด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ นโยบายและระเบียบปฏิบัติของบริษัทฯ และกำหนดให้สำนักตรวจสอบภายในมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบการปฏิบัติตามระบบการควบคุมภายในดังกล่าว และรายงานต่อคณะ กรรมการตรวจสอบ โดยคณะกรรมการบริษัทฯ จะประเมินความเพียงพอและเหมาะสมของระบบการควบคุมภายในเป็นประจำทุกปี และให้ความเห็นไว้ในรายงานประจำปี

(5)     แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการชุดย่อยต่างๆ เพื่อช่วยคณะกรรมการในการกำกับดูแลกิจการให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้

(6)     แต่งตั้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ Chief Financial Officer ซึ่งเสนอโดยคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน เพื่อรับผิดชอบดำเนินการเรื่องต่างๆ ตามที่กำหนดโดยคณะกรรมการบริษัทฯ คณะกรรมการบริหารและกฎหมาย

(7)     แต่งตั้งเลขานุการบริษัท เพื่อรับผิดชอบดำเนินการในเรื่องต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของประธานกรรมการ ตามข้อบังคับบริษัทฯ

ข้อ 22.  ในการเรียกประชุมคณะกรรมการ ให้ประธานกรรมการหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจัดส่งหนังสือนัดประชุมไปยังกรรมการไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันประชุม เว้นแต่ในกรณีจำเป็นรีบด่วน เพื่อรักษาสิทธิ หรือประโยชน์ของบริษัทฯ จะแจ้งการนัดประชุมโดยวิธีอื่นและกำหนดวันนัดประชุมเร็วกว่านั้นก็ได้ ในกรณีที่กรรมการตั้งแต่สองคนขึ้นไปร้องขอให้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการ ให้ประธานกรรมการกำหนดวันนัดประชุมภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้รับการร้องขอเช่นว่านั้น

ข้อ 26.  มติทั้งปวงของที่ประชุมคณะกรรมการ ให้ตัดสินด้วยคะแนนเสียงข้างมากของกรรมการที่มาประชุม กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งเสียงในการลงคะแนน เว้นแต่กรรมการซึ่งมีส่วนได้เสียในเรื่องใด ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้น ในกรณีที่คะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

 

 

ข้อ 38.  ประธานกรรมการเป็นประธานที่ประชุมผู้ถือหุ้น ในกรณีที่ประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ถ้ามีรองประธานกรรมการให้รองประธานกรรมการเป็นประธาน ถ้าไม่มีรองประธานกรรมการ หรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมเลือกผู้ถือหุ้นคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม

บทบาทหน้าที่ของประธานกรรมการสำหรับคณะกรรมการบริษัทฯ

เพื่อทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อีกทั้งลงคะแนนเสียงชี้ขาดในกรณีที่ประชุมคณะกรรมการมีการลงคะแนนเสียงเท่ากัน ตลอดจนทำหน้าที่เรียกประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ และเป็นประธานในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ รวมถึงปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งกำหนดไว้เฉพาะให้เป็นหน้าที่ของประธานกรรมการ และครอบคลุมในเรื่องดังต่อไปนี้

  • กำกับ ติดตาม และดูแลให้มั่นใจได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการเป็นไปอย่างประสิทธิภาพและบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้
  • ดูแลให้มั่นใจว่ากรรมการทุกคนได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่มีจริยธรรมและการกำกับดูแลกิจการที่ดี
  • กำหนดระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ
  • จัดสรรเวลาในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อย่างเพียงพอที่คณะจัดการจะเสนอเรื่องและมากพอที่กรรมการจะอภิปรายประเด็นสำคัญกันอย่างรอบคอบและให้ความเห็นได้อย่างเป็นอิสระ
  • เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกรรมการที่เป็นผู้บริหารและกรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหาร และระหว่างคณะกรรมการบริษัทฯ กับ คณะจัดการ

วาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการบริษัทฯ

ในการประชุมสามัญประจำปีทุกครั้ง กรรมการจะต้องออกจากตำแหน่งอย่างน้อยจำนวนหนึ่งในสามโดยอัตรา ถ้าจำนวนกรรมการจะแบ่งออกให้เป็นสามส่วนไม่ได้ก็ให้ออกโดยจำนวนใกล้เคียงที่สุดกับส่วนหนึ่งในสาม กรรมการผู้ออกจากตำแหน่งไปนั้นอาจจะเลือกเข้ารับตำแหน่งอีกก็ได้