น้ำมันปาล์มนั้น นอกจากจะมีคุณสมบัติดีเด่นด้านอุตสาหกรรมแล้ว ยังเป็นน้ำมันพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการดีเด่นอีกด้วย จากการวิจัยคุณสมบัติของน้ำมันปาล์มพบว่า น้ำมันปาล์มเป็นแหล่งรวมวิตามินอีในปริมาณสูงสุด เมื่อเทียบกับน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ วิตามินอีที่เรารู้จักประกอบไปด้วยโทโคฟิรอล (Tocopherol), โทโคไทรนอล (Tocotrienol) และอยู่ในรูปของแอลฟา เบต้า แกมมา และเดลตา ซึ่งโทโคฟิรอลนั้น เป็นสารต้นทางการออกซิไดซ์ตามธรรมชาติ คือ จะทำให้น้ำมันไม่เหม็นหืนง่าย ช่วยชะลอความแก่ ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ รักษาแผลไพไหม้ ผ่าตัด แผลงูสวัด และทำหน้าที่เป็นตัวกำจัดพิษในร่างกาย ความผิดปกติเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ และการแท้งลูก อีกทั้งยังปรากฏว่า น้ำมันปาล์มดิบมีสารเบต้าแคโรทีน เป็นสารที่ช่วยลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ป้องกันโรคมะเร็งในเยื่อบุผิว ผนังเยื่อจมูก เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ช่วยยืดอายุความเป็นหนุ่มสาว ป้องกันการแก่เร็ว ช่วยการเจริญเติบโตของกระดูกอ่อน กระดูกและฟัน

นอกจากนี้น้ำมันปาล์มที่ได้จากเนื้อปาล์ม ยังประกอบไปด้วยกรดไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัวในปริมาณที่สมดุลมีกรดไขมันเป็นกรดเดี่ยว (Monounsaturated) คือ กรด Oleic 43% และกรดไขมันไม่อิ่มตัวหมู่ (Poly-Unsaturated) คือ Linoleic11% เป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ซึ่งผลจากการวิจัยรายงานว่า Monounsaturated Fatty Acid หรือกรด Oleic นั้นสามารถลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ด้วย